นักวิชาการชี้ การควบคุมเวลาขายเหล้าเบียร์ยังจำเป็นมาก ช่วยลดผลกระทบคุ้มครองสุจริตชน สมดุลระหว่างเสรีภาพกับผลประโยชน์สาธารณะยังสำคัญ ด้านอดีต กมธ.ร่าง พรบ.ฯ ยัน กฎหมายใหม่ยกเลิก ปว. 253 จริง แต่ยังมีประกาศสำนักนายกคุมเวลาขายอยู่ เว้น สนามบินนานาชาติ สถานบริการ และโรงแรม
ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศ ที่ระบุถึงการแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พุทธศักราช พ.ศ.2551 โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2568 เพื่อให้การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน โดยประกาศเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2568 และจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้น 60 วันหลังประกาศ ซึ่งจะตรงกับวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2568 นั้น ต่อมามีการออกมาให้ข่าวยกเลิกเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้สร้างความสับสนกับประชาชนและผู้ประกอบการ
นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ในฐานะตัวแทนประชาชนผู้เสนอร่าง และอดีตคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างฯ ในชั้นสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า กฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้มีการแก้ไขให้หลายประเด็นอาทิ แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยาม องค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ อำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีผู้รักษาการ อำนาจหน้าที่ของสำนักงาน อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ และบทบัญญัติเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การโฆษณา การส่งเสริมและสนับสนุนการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ แต่ในช่วงวันสองวันที่ผ่านมามีการเผยแพร่ข่าวว่าร้านค้าร้านอาหารสามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงบ่าย (14.00 น. - 17.00 น.) ได้แล้ว ซึ่งถือเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างยิ่ง อาจทำให้ประชาชน ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะร้านอาหาร มีความสุ่มเสี่ยงที่จะกระทำผิดกฎหมายได้ ซึ่งไม่ทราบว่าต้นตอผู้ให้ข่าวมีเจตนาอย่างไร
“ถึงแม้ในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2568 ที่เพิ่งประกาศนั้นจะยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2515 ที่ห้ามมิให้จำหน่ายสุรานอกจากเวลา 11.00 - 14.00 น. และตั้งแต่เวลา 17.00 - 24.00 น.แล้วนั้น แต่ยังคงมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2568 ที่ออกตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2568 ยังคงห้ามมิให้จำหน่ายสุรานอกจากเวลา 11.00 น.-14.00 น.และเวลา 17.00 น.-24.00 น. โดยมีข้อยกเว้นเพียง 3 กรณีเท่านั้นคือ (1) การขายในอาคารที่ให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ (2) การขายในสถานบริการซึ่งเป็นไปตามกำหนดเวลาเปิดปิดของสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ และ (3) การขายในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ดังนั้นกรณีที่มีการให้ข่าวว่าร้านอาหาร ร้านค้าทั่วไปสามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงบ่ายได้แล้ว จนมีการแชร์ข่าวสร้างความสับสนไปทั่ว รวมถึงสื่อมวลชนด้วยนั้น ถือเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างมาก เพราะแม้ ปว. 253 ยกเลิกไปแต่ ประกาศสำนักนายกยังอยู่ และยกเว้นให้เพียง สามกรณีเท่านั้น จากจำนวนใบอนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของสรรพสามิตกว่า 580,000 แห่ง จะได้รับอนุญาตให้ขายได้เพียงบางจุดเท่านั้นคือ ในสนามบินนานาชาติ ซึ่งรวมทั้งประเทศมี 15 แห่ง สถานบริการที่จดทะเบียนทั้งประเทศมีไม่ถึง 2,000 แห่ง และโรงแรมที่จดทะเบียนอีกประมาณ 15,000 แห่ง ดังนั้นรวมจุดผ่อนปรนที่อนุญาตขายในตอนนี้มีเพียงแค่นี้เท่านั้น จุดจำหน่ายอื่นๆนอกจากนี้ยังมีเวลาขายคงเดิม คือขายได้ในเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น.
ด้าน ดร.นพ.มูฮัมมัดฟาห์มี ตาเละ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานรินทร์ วิทยาเขตปัตตานี นักวิจัยศูนย์วิจัยปัญหาสุรา กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องควบคุมเวลาขาย คือ 1. ลดความสะดวกในการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หลังเลิกงานหรือช่วงกลางคืน การจำกัดเวลาเป็น “เกราะกำบัง” สำคัญในการชะลอการบริโภค 2. ลดอุบัติเหตุและความรุนแรงทางสังคม งานวิจัยจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศยืนยันว่า ความพร้อมในการซื้อเครื่องดื่มทุกเวลา สัมพันธ์กับอัตราอุบัติเหตุบนท้องถนน การทะเลาะวิวาท และอาชญากรรมที่สูงขึ้น 3. คุ้มครองเยาวชน เวลาห้ามขายช่วยป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึงเครื่องดื่มได้ง่ายเกินไป โดยเฉพาะในชั่วโมงที่ครอบครัวและโรงเรียนไม่สามารถดูแลได้เต็มที่ 4. เป็นต้นแบบด้านนโยบายสาธารณะ ประเทศไทยได้รับการยกย่องในเวทีโลกว่าเป็นประเทศที่มีมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เข้มแข็งและสร้างสมดุลระหว่างเสรีภาพกับประโยชน์สาธารณะ การคงไว้ซึ่งเวลาห้ามขายถือเป็นเสาหลักสำคัญที่ไม่ควรถูกบั่นทอน
“ข้อสรุปของเรื่องนี้คือ การยกเลิกคำสั่ง ปว.253 มิได้แปลว่าประชาชนจะซื้อจะขายสุราได้ตลอดเวลา แต่เป็นเพียงการยกเลิกกฎหมายเก่าที่ซ้ำซ้อน แต่กฎหมายหลักว่าด้วยเวลาห้ามขายสุรายังคงอยู่ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องกำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2568 เป็นกฎหมายที่ยังคงจำเป็น ประเทศไทยไม่ควรเดินย้อนกลับไปสู่สังคมที่เปิดช่องให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกซื้อขายได้อย่างไร้ขอบเขต เพราะนั่นหมายถึงต้นทุนทางสุขภาพ อุบัติเหตุ และความรุนแรงที่จะตกกับครอบครัวและสังคมโดยรวม การจำกัดเวลาขายจึงไม่ใช่การจำกัดเสรีภาพ หากแต่เป็น ภูมิคุ้มกันทางสังคมที่สำคัญ ที่ช่วยให้สังคมไทยปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”ดร.นพ.มูฮัมมัดฟาห์มี กล่าว
No comments:
Post a Comment