ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 24,714 ราย
(เพิ่มขึ้น 143 ราย)
-เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้น 64 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อที่กลับจากต่างประเทศในState quarantineเพิ่มขึ้น 11 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 68 ราย(ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจาก
การตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่13,990 ราย)
เสียชีวิตรวม 82 ราย (วันนี้มีรายงาน
ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 22,883 ราย(92.59%)
(มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 772 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 1,749 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ
64 ราย มีรายละเอียดดังนี้
จาก สมุทรสาคร(53) สมุทรสงคราม(1) นครปฐม(8) ชลบุรี(2)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทาง
มาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 11 ราย
และเข้า State quarantine โดยเข้ารับ
การรักษาที่กรุงเทพ(6) สมุทรปราการ(3) และชลบุรี (2) มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศอียิปต์ 1 ราย
- จากประเทศเยอรมนี 1 ราย
- จากประเทศสหราชอาณาจักร 5 ราย
- จากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3 ราย
- จากประเทศสหรัฐอเมริกา 1 ราย
🌐 สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 109 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 2.4 ล้านราย
(คิดเป็นร้อยละ 2.2 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ)
ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 81 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ74.5)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 64,297 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 497,174 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 10.9 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,434 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 10.6 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 114 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 150 ของโลก
🌐 สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 141,601 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 25 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 3,189 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 264,269 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่
อยู่ที่ 2,464 ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 479 ราย
มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 0 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 45 ราย
โดยกำลังรักษาอยู่ 4 ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 33 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 35 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค
และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรม
การแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม
No comments:
Post a Comment