ไฮเออร์ เผยผลประกอบการส่งท้ายปี 63 โชว์รายได้รวมกว่า 6,205 ล้านบาท พร้อมเปิดเกมรุกตลาด กางแผนธุรกิจชูนวัตกรรม IoT สมาร์ทโฮมและแฟมิลี่แคร์ ยึดตำแหน่งผู้นำด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 1 ต่อเนื่องในปี 2564 - Thailand Times

Breaking

Post Top Ad

Thursday 17 December 2020

ไฮเออร์ เผยผลประกอบการส่งท้ายปี 63 โชว์รายได้รวมกว่า 6,205 ล้านบาท พร้อมเปิดเกมรุกตลาด กางแผนธุรกิจชูนวัตกรรม IoT สมาร์ทโฮมและแฟมิลี่แคร์ ยึดตำแหน่งผู้นำด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 1 ต่อเนื่องในปี 2564



ไฮเออร์ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก และเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 11 ปีซ้อน รายงานผลประกอบการของปี 2563 รายได้โต 31% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว พร้อมเปิดเกมรุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าสมาร์ทโฮมในปี 2564 อย่างเต็มรูปแบบ อาทิ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ชูกลยุทธ์แคมเปญใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Smart Home Solution Provider, World’s Leading Ecosystem Brand" เพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าวิถีใหม่ รวมถึงชูจุดเด่นด้านนวัตกรรม Family Care ที่จะมาช่วยดูแลสุขภาพของทุกคนในครอบครัว ตั้งเป้ายอดขายรวมปี 2564 ที่ 8,445 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37 % 



มร. จาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ในปี 2563 ไฮเออร์ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ไฮเออร์สามารถปิดปีได้อย่างสวยงามเกินคาดกับรายได้รวมทุกหมวดผลิตภัณฑ์กว่า 6,201 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในจำนวนนี้เป็นรายได้จากเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน 2,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% ตู้เย็น 1,175 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% เครื่องซักผ้า 866 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% ตู้แช่ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ 256 ล้านบาท โตขึ้น 1% สมาร์ททีวี 190 ล้านบาท โตขึ้น 110% เครื่องทำน้ำอุ่น 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35 % เครื่องใช้ในครัว 103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 296% ทั้งนี้เป็นยอดขายจากออนไลน์ 290 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131% จากปีที่แล้วและได้เตรียมรุกตลาดในปี 2564 อย่างแข็งแกร่ง พร้อมตั้งเป้ายอดขายเติบโตอีก 37% คิดเป็นยอดขายรวม 8,445 ล้านบาท” 



ไฮเออร์ยังได้เผยแนวทางการตลาดภายใต้สโลแกน “Inspired Living การใช้ชีวิตของคุณคือแรงบันดาลใจของเรา” โดยได้ศึกษาวิถีการใช้ชีวิตและพฤติกรรมของผู้บริโภค นำมาพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค ซึ่งในปัจจุบันนี้เทรนด์การดูแลสุขภาพเข้ามามีบทบาทต่อพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างมากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือเป็นความท้าทายในการดำเนินธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในยุค New Normal ไฮเออร์จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเพิ่มจุดเด่นในเรื่อง Family Care หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลสุขภาพของทุกคนในบ้าน   



สินค้าใหม่ในปี 2021 ของไฮเออร์  

สำหรับปีหน้าไฮเออร์ก็จะยังคงเน้นสินค้าประเภท IoT Smart Home ที่สามารถควบคุมและเชื่อมต่อผ่านมือถือ รวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยส่งเสริมในด้านสุขภาพและความสะดวกสบาย เช่น เทคโนโลยี Self-Cleaning ในผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องซักผ้าและเครื่องปรับอากาศ ที่ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ เพิ่มประสิทธิภาพและสุขอนามัยในการใช้งาน 

เครื่องปรับอากาศไอเออร์ Smart Cool รุ่น HSU-10VNR03T(W) ที่มีระบบ Smart Control สามารถเชื่อมต่อ Wifi และควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมทั้งระบบ Self- cleaning ที่ทำให้เครื่องปรับอากาศสามารถล้างตัวเองได้ภายใน 20 นาที และ ฟังก์ชัน Turbo Cool ที่ช่วยเร่งความเย็นให้เย็นเร็วมากขึ้นถึง 47% นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Nano Purify Filter & Nano Carbon Filter ที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรียและกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตู้เย็นไฮเออร์ รุ่น HRF-MD758 ตู้เย็น IoT ที่ครบครันด้วยระบบ Food Management ที่สามารถช่วยจัดการเรื่องสต็อกอาหาร จดและบันทึกรายการสินค้าภายในตู้เย็น พร้อมด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ ที่สามารถสั่งสินค้าจาก Tops Online จากหน้าจอทัชสกรีน และสามารถสั่งการได้ด้วยเสียง หรือ ผ่านแอพพลิเคชั่น Smart app by Haier เพิ่มลูกเล่นด้วยฟังก์ชั่น Entertainment อย่าง Youtube, Facebook ที่จะทำให้การทำอาหารไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ด้วยคอนเซ็ปต์ Internet of things

เครื่องซักผ้าไฮเออร์ Smart & Healthy Function ในปีหน้าไฮเออร์จะมุ่งเน้นเครื่องซักผ้า ที่มีฟังก์ชั่นเพื่อสุขภาพ I-Refresh ที่ช่วยกำจัดเชื้อโรค, แบคทีเรีย 99.9% และยังช่วยลดรอยยับ และกลิ่นอับอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถควบคุมการทำงานผ่าน Smart Phone เพื่อความสะดวกสบาย และตอบโจทย์ชีวิตในยุคดิจิตอลอีกด้วย โดยเครื่องซักผ้าไฮเออร์ซีรี่ย์ Smart & Healthy จะมีทั้งหมด 4 รุ่น คือ HWD160-B1551U1, HWC150-B1601U1, HWD120-B14876U1 และ HWD100-B14876U1 

สมาร์ททีวีไฮเออร์ รุ่นLE65S6 ที่มาพร้อมกับจอ QLED 65 นิ้ว ดีไซน์บางเฉียบ หรูหราด้วยวัสดุ metal เสริมด้วยลำโพงคุณภาพชั้นเยี่ยมระดับ Cinema sound และระบบปฏิบัติการ Android พร้อมด้วยฟังก์ชัน Chromecast Built-in ที่สามารเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้โดยไม่ต้องใช้ Wifi โดยรุ่นนี้จะเจาะกลุ่มตลาด Hi-end โดยเน้นฟังก์ชันที่ล้ำสมัยและดีไซน์เรียบหรู


และภายในสิ้นปีนี้ ทางไฮเออร์ยังได้ต่อยอดธุรกิจใหม่ เตรียมเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ที่มี่ชื่อว่า Candy    ที่จะมาตีตลาดลูกค้าในกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ด้วยดีไซน์ทันสมัย เรียบง่าย ในราคาที่จับต้องได้ และจะเน้นช่องทางการจัดจำหน่ายเฉพาะในช่องทาง e-commerce เท่านั้น ซึ่งสินค้าในช่วงเปิดตัว ได้แก่ โทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า และตู้เย็น เป็นต้น 



ผลิตภัณฑ์และแคมเปญเด่นตลอดปี 2563 ต่อเนื่องปี 2564   

ในปี 2563 ที่ผ่านมา ไฮเออร์ได้จัดแคมเปญ Smart Sharing AC 800 บาทต่อเดือนต่อเนื่องจากโครงการ Smart Sharing AC เย็นดีแค่ 4 บาทในปีที่แล้ว โดยครั้งนี้ไฮเออร์ได้จับมือกับบริษัท ฟอลคอน เอสซีเอ็ม จำกัด ร่วมลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศที่สนใจร่วมโครงการ Smart Sharing AC สำหรับลูกค้าที่ได้ลงทะเบียน จะได้รับบริการติดตั้งเครื่องปรับอากาศฟรี รวมถึงรับประกันตัวเครื่อง 5 ปีและคอมเพรสเซอร์อีก 10 ปี โดยจ่ายเพียงเดือนละ 800 บาท เป็นเวลา 24 เดือน      เมื่อชำระครบตามกำหนดจะได้กรรมสิทธ์เป็นเจ้าของ อีกทั้งได้แนะนำเทคโนโลยี Self-Cleaning ในเครื่องปรับอากาศและเครื่องซักผ้า ที่เป็นการทำความสะอาดภายในเครื่องโดยอัตโนมัติ 


สำหรับต้นปีหน้า ทางไฮเออร์ได้เตรียมจัดงานเปิดตัวตู้เย็น IoT นวัตกรรมแห่งปี HRF-MD758 ที่สามารถสั่งการด้วยเสียงและผ่านแอปพลิเคชั่น Haier Smart App สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi และสั่งสินค้าจาก Tops Online โดยตรงจากหน้าจอเครื่อง ส่วนธุรกิจร้านซักผ้า Mr.Hi Smart+ by Haier ร้านซักผ้าอัจฉริยะที่ใช้งานและชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน 100% และในปีหน้า ไฮเออร์ก็ยังคงเดินหน้าขยายสาขา อย่างต่อเนื่อง  โดยตั้งเป้าอยู่ที่ 100 สาขาภายในปี 2565 


นอกจากกิจกรรมทางการตลาดแล้ว ไฮเออร์ยังให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนที่จะเป็นพลังในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าต่อไป ไฮเออร์จึงได้จัดกิจกรรม CSR ร่วมกับมูลนิธิ CCF ภายใต้ชื่อ “Haier HaiTher ไฮเออร์ ให้เธอ” เพื่อเป็นการสนับสนุนด้านการศึกษาให้กับเด็กๆ และเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล


“กลยุทธ์การตลาดในปี 2564 เรายังคงเน้นทำการตลาดแบบครบวงจรภายใต้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท โดยจัดกิจกรรมในช่องทางออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ติ๊กต่อก ที่จะเชื่อมไปสู่กิจกรรมแบบออฟไลน์ด้วย และยังคงใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ในการสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งรุกตลาดเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายด้วยการเพิ่มสาขาไฮเออร์ แบรนด์ ช็อป (Haier Brand Shop) โดยตั้งเป้าเปิดอีก 20สาขาในปี 2564 รวมเป็น 30 สาขา รวมถึงสร้างร้านค้าทางการของไฮเออร์ในช่องทาง e-commerce ต่างๆ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น” มร.จาง เจิ้งฮุ้ย กล่าวทิ้งท้าย






No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages