Ferrari Portofino M (เฟอร์รารี่ พอร์โตฟิโน เอ็ม): การออกเดินทาง เพื่อค้นพบอีกครั้ง - Thailand Times

Breaking

Post Top Ad

Saturday 19 September 2020

Ferrari Portofino M (เฟอร์รารี่ พอร์โตฟิโน เอ็ม): การออกเดินทาง เพื่อค้นพบอีกครั้ง


เผยโฉมวิวัฒนาการล่าสุดของยนตรกรรม GT แบบ 2 ที่นั่ง จากค่ายม้าลำพอง Portofino M มาพร้อมกับนวัตกรรมที่ขยายขีดสุดแห่งศักยภาพและความเพลิดเพลินในการขับขี่แบบ “ดื่มด่ำไปกับสายลม” ขึ้นไปอีกขั้น องค์ประกอบทางเทคนิคใหม่ประกอบด้วย ขุมพลัง V8 เทอร์โบ, Manettino แบบ 5 โหมด รวมถึงโหมด Race และเกียร์ 8 จังหวะรุ่นใหม่

มาราเนลโล, 16 กันยายน 2020 - เฟอร์รารี่ Portofino M วิวัฒนาการแห่งรถ GT เปิดประทุนแบบ 2 ที่นั่ง จากค่ายม้าลำพอง ได้รับการเผยโฉมแล้ววันนี้ การเปิดตัวครั้งนี้จัดขึ้นผ่านทางออนไลน์ทั้งหมด นับเป็นความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์กว่า 70 ปี ของแบรนด์จากมาราเนลโล การเตรียมความพร้อมไปสู่งานเปิดตัวครั้งนี้ รวมไปถึงการส่งจดหมายไปยังลูกค้าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้น พวกเขาจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงแพลตฟอร์มวิดีโอเบื้องหลังคอนเซปต์ของรถ, การปรับโฉม และข้อมูลหลักๆ ทางเทคนิค

Portofino M เป็นเฟอร์รารี่คันแรกที่ถูกเปิดตัวหลังจากที่บริษัทต้องหยุดดำเนินการชั่วคราวเนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้รถรุ่นนี้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการออกเดินทางเพื่อค้นพบอีกครั้ง นี่เป็นการ (กลับมา) เริ่มต้นแสวงหานวัตกรรมครั้งใหม่ของม้าลำพอง ในขณะที่ยังคงเคารพในวิถีทางดั้งเดิม รวมถึงการแสวงหาความสมบูรณ์แบบอย่างเต็มที่เช่นเคย คุณค่าเหล่านี้สะท้อนให้เห็นใน Portofino M โดยอักษร “M” นั้นย่อมาจาก “Modificata” ซึ่งตามวิธีการตั้งชื่อของเฟอร์รารี่นั้น หมายถึงรถยนต์ที่ผ่านการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะขึ้นไปจากเดิม

ในเฟอร์รารี่ Portofino ที่ถูกเพิ่มศักยภาพคันนี้ เปี่ยมด้วยนวัตกรรมทางเทคนิคอันน่าทึ่ง จุดที่โดดเด่นอย่างยิ่งก็คือระบบส่งกำลังที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ด้วยเกียร์แบบ 8 จังหวะรุ่นล่าสุด และ Manettino 5 โหมด ซึ่งรวมถึงโหมด Race ที่นับเป็นครั้งแรกที่มีการนำมาใช้ในรถ GT แบบเปิดประทุนแห่งมาราเนลโล  ผลลัพธ์ที่เกิดจากสิ่งเหล่านี้ ตลอดจนฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ ทำให้รับประกันได้ว่า Portofino M มีความครบครันตามแบบฉบับของรถ GT ขนานแท้ ทั้งในด้านของสมรรถนะ, ความเร้าใจในการขับขี่, ความคล่องตัว และสามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ในชีวิตประจำวัน

ในเรื่องของพลังขับเคลื่อน เครื่องยนต์ความจุ 3,855 ซีซี ของ Portofino M ซึ่งอยู่ในตระกูลของขุมพลัง V8 เทอร์โบ ที่ได้รับรางวัล “International Engine of the Year” ถึง 4 ปีซ้อน ได้รับการปรับแต่งให้ปลดปล่อยพละกำลังได้ถึง 620 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที มากกว่าเฟอร์รารี่ Portofino ถึง 20 แรงม้า นอกจากนั้น ยังใช้เกียร์แบบ 8 จังหวะ ที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด เข้ามาแทนที่เกียร์ 7 จังหวะของเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ ถือว่าเป็นการนำเกียร์ 8 จังหวะ มาใช้ในรถเฟอร์รารี่เปิดประทุนเป็นครั้งแรก และเป็นเกียร์ที่ใช้คลัตช์คู่แบบแช่ในน้ำมัน พร้อมด้วยชุดคลัตช์ที่มีขนาดเล็กลง 20% และถ่ายทอดแรงบิดได้สูงขึ้น 30%

หากมองในด้านของไดนามิกส์ นวัตกรรมที่สำคัญที่สุดก็คือระบบ Manettino แบบ 5 โหมด ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งกับรถ GT เปิดประทุนของม้าลำพอง แน่นอนว่า มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มแฮนด์ลิ่งและการยึดเกาะถนนของเฟอร์รารี่ Portofino ที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้วให้สูงขึ้นไปอีก ผ่านโหมด Race ที่เพิ่มเข้าไป กล่าวได้ว่าโหมด Race นั้น พุ่งเป้าไปที่การเพิ่มอรรถรสในการขับขี่และความสนุกหลังพวงมาลัยให้มากยิ่งขึ้น โดยมีระบบ Ferrari Dynamics Enhancer ทำงานสนับสนุนควบคู่กันไป

ด้านหน้าของรถและกันชนได้รับการออกแบบใหม่ให้มีภาพลักษณ์แบบสปอร์ตและดุดันกว่าเดิม เพื่อเน้นย้ำให้เห็นพัฒนาการทางเทคโนโลยีของรถรุ่นนี้ได้เด่นชัดยิ่งขึ้น ทั้งภายในและภายนอกให้ความรู้สึกที่กลมกลืนของการแสดงออก และเจตนาที่คมชัดแต่ยังคงความนุ่มนวลและพริ้วไหวมากขึ้น

ผลงานชิ้นเอกด้านการออกแบบและวิศวกรรมล่าสุดจากม้าลำพอง กำเนิดเป็นวิวัฒนาการที่สมบูรณ์แบบของเฟอร์รารี่ Portofino มีบุคลิกแบบสปอร์ตมากกว่าบรรพบุรุษของมัน ทั้งยังมอบแฮนด์ลิ่งที่เหนือกว่า ด้วยความสะดวกสบายที่ไม่เพียงคงไว้ แต่ยังเพิ่มมากขึ้น ด้วยฟีเจอร์ที่เพิ่มมาใหม่อย่างเช่น ADAS และเบาะนั่งแบบระบายอากาศและทำความร้อน เฟอร์รารี่ Portofino M ยังคงรักษาจิตวิญญาณของรถรุ่นก่อนหน้านี้เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน เป็นรถเพียงคันเดียวในตลาดที่สามารถนิยามความเป็นรถคูเป้ขนานแท้ได้อย่างถูกต้องเมื่อปิดหลังคา และเป็นรถสไปเดอร์ที่แท้จริงเมื่อเปิดหลังคา แน่นอนว่าต้องยกความดีความชอบให้กับหลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ (RHT – Retractable Hard Top) ฟีเจอร์ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของรถเปิดประทุนจากม้าลำพอง

ขนาดกะทัดรัดของ Portofino M ทำให้สามารถใช้งานได้ในทุกโอกาส รวมถึงความคล่องตัวที่ไม่มีใครเทียบเคียง และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร พร้อมจะเปลี่ยนทุกทริปให้เป็นการเดินทางเพื่อการค้นพบ (อีกครั้ง)
















No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages