‘กรมเจรจาฯ’ โชว์ศักยภาพสินค้าสมุนไพรแปรรูปไทย พร้อมลุยตลาด FTA
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จ.ชลบุรี ติดตามการพัฒนาศักยภาพสินค้าสมุนไพรแปรรูป หลังเข้าร่วมโครงการของกรมเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดการค้าเสรี ปลื้ม! พบสินค้าหลายรายการยกระดับการผลิต พร้อมเดินหน้าบุกตลาดโลก
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้นำคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนลงพื้นที่พบหารือผู้บริหาร เกษตรกร และสมาชิก พร้อมเยี่ยมชมศูนย์การปลูกและแปรรูปสมุนไพร ณ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 เพื่อติดตามการส่งเสริมเกษตรกรและผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) เป็นเครื่องมือสร้างแต้มต่อทางการค้า ขยายการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ และจากการเปิดเสรีทางการค้าที่กำลังจะเกิดขึ้น
นางสาวโชติมา กล่าวว่า ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้องได้เข้าร่วมโครงการและกิจกรรมต่างๆ ของกรม มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 ได้สมัครเข้าร่วมโครงการ “ส่งเสริมเกษตรกร ผู้ประกอบการไทย เร่งต่อยอด ใช้ประโยชน์ FTA” ซึ่งกรมได้ให้ความรู้เรื่อง FTA การค้าระหว่างประเทศ กลยุทธ์การทำตลาดแบบออนไลน์และออฟไลน์ การเขียนแผนธุรกิจ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยศูนย์สามารถยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของศูนย์ เช่น รางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบดี (Design Excellence Award: DEmark) เข้าร่วมงาน Sustainability Expo (SX) เป็นต้น จนสามารถส่งออกสเปรย์ไล่ยุงสมุนไพรไปยังตลาดจีนผ่านผู้ส่งออกและผู้นำเข้า และพร้อมจะผลักดันผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายใต้ยี่ห้อ “มาบเอื้อง” สู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีเนื่องจากธุรกิจสมุนไพรเติบโตตามกระแสรักสุขภาพของคนทั่วโลก ทำให้ตลาดสมุนไพรเติบโตอย่างมาก รวมทั้งผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมผลิตภัณฑ์ ‘ออร์แกนิค’ ยิ่งตอกย้ำให้ตลาดสมุนไพรขยายวงกว้างมากขึ้น จึงเป็น “โอกาส” ของผู้ประกอบการไทยที่จะใช้ FTA เป็นเครื่องมือสร้างแต้มต่อทางการค้าให้กับผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในตลาดโลก
ทั้งนี้ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ก่อตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าหลักการกสิกรรมธรรมชาติและทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวง ร.9) สามารถนำมาใช้สร้างความยั่งยืนได้จริง ปัจจุบันเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญด้านกสิกรรมธรรมชาติและการออกแบบพื้นที่ตามแนวคิดโคก หนอง นา โมเดล มีการจัดกิจกรรมอบรมหลักสูตรระยะสั้นและระยะยาวสำหรับผู้ที่สนใจ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรออร์แกนิกในพื้นที่ อาทิ แชมพู สบู่เหลว สเปรย์น้ำแร่ว่านหางจระเข้ น้ำยาบ้วนปาก ครีมนวดผม น้ำมันนวดตัว สเปรย์ไล่ยุง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่พัฒนาขึ้นโดยร่วมมือกับหน่วยงานวิจัยชั้นนำ
นางสาวโชติมา เพิ่มเติมว่า ในปี 2569 กรมมีแผนดำเนินโครงการสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้ประโยชน์จาก FTA ให้กับผู้ประกอบการ เกษตรกร สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อสร้างแต้มต่อทางการค้าและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก และพร้อมรองรับความท้าทายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเปิดเสรีทางการค้า โดยจะทำงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เช่น กรมส่งเสริมสหกรณ์ สภาเกษตรกรแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นต้น จำนวน 10 โครงการ ใน 2 รูปแบบ ดังนี้ (1) สร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้ประโยชน์จาก FTA จำนวน 6 โครงการ และ (2) โครงการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ จำนวน 4 โครงการ และยังมีการให้บริการข้อมูลของศูนย์บริการข้อมูล FTA หรือ FTA Center ผ่านทุกช่องทางอีกด้วย
ในช่วง 10 เดือน (ม.ค. – ต.ค. 2568) ไทยส่งออกสินค้กลุ่มแชมพูและครีมนวด มูลค่า 589.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2567 ร้อยละ 5.54 โดยญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกหลัก รองลงมา คือ ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย และไทยส่งออกสบู่ มูลค่า 84.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.30 ส่วนใหญ่ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา และสปป.ลาว สำหรับกลุ่มสินค้ายาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก ไทยส่งออกมูลค่า 291.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวลดลงร้อยละ 2.15 ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้















No comments:
Post a Comment