NIA ร่วมกับ จุฬาฯ จัดกิจกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม สร้างโอกาสเพื่อการขยายผลธุรกิจ ตอกย้ำแนวคิด 4G ยกระดับระบบนิเวศนวัตกรรมไทย “Groom – Grant – Growth – Global”
1) กลไกการสนับสนุนทุนโครงการนวัตกรรมแบบเปิด (Open Innovation)
2) กลไกการขยายผลนวัตกรรมในระดับภูมิภาคสู่ตลาด (Regional Market Validation)
3) กลไกการขยายธุรกิจนวัตกรรม (Market Expansion)
4) กลไกสนับสนุนการพัฒนามาตรฐานสำหรับธุรกิจนวัตกรรม (Standard Testing)
5) กลไกการสนับสนุนที่ปรึกษาเพื่อพัฒนานวัตกรรม (MIND)
6) กลไกการสนับสนุนทุนโครงการนวัตกรรมแบบมุ่งเป้า (Thematic Innovation)
7) กลไกสนับสนุนดอกเบี้ยบางส่วนเพื่อเสริมสภาพคล่อง (Working Capital Interest)
8) กลไกนวัตกรรมดี...ไม่มีดอกเบี้ย
และ 9) กลไกการสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้มีโอกาสเติบโตและขยายตลาดโดยการร่วมมือจากแหล่งทุนภาครัฐและเอกชน (Cooperate Co-Funding)
และในปีนี้เอง NIA ก็ได้มีความร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการดำเนินโครงการนวัตกรรมด้านเศรษฐกิจ Region Innovation Business Platform ในพื้นที่ภูมิภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีความพิเศษกว่าทุกปีที่ผ่านมาคือ นอกเหนือจากกิจกรรมการพัฒนาโครงการนวัตกรรมเพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับการสนับสนุนทุนแล้ว เรายังได้ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมโอกาสในการขยายผลธุรกิจนวัตกรรมให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ผู้ประกอบที่มีนวัตกรรม สามารถขยายผลเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามแนวคิด 4G ของ NIA คือ “Groom – Grant – Growth – Global” โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกมิติ เพื่อยกระดับศักยภาพ สร้างโอกาสทางธุรกิจ และสนับสนุนการเติบโตไปสู่ตลาดต่างประเทศของธุรกิจนวัตกรรมไทย”
ดร.สุรอรรถ ศุภจัตุรัส อธิบายเพิ่มเติมถึงแนวคิดเบื้องหลังในการร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่องนี้เป็นเพราะปัจจุบันการมาติดต่อขอทุนโดยตรงกับส่วนกลางของ NIA อาจเป็นเรื่องที่มีความยากในมุมผู้ประกอบการ หรือแม้แต่สถานการณ์ที่ผู้ประกอบการไม่ทราบถึงการมีอยู่ของทุน ด้วยการนี้เอง NIA จึงแก้ปัญหาด้วยการมุ่งหาความร่วมมือในการสร้างเครือข่ายทั่วประเทศ เพื่อให้ทุนเข้าถึงผู้ประกอบการจริง ๆ นำมาซึ่งการร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในครั้งนี้
ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “ในนามของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รู้สึกมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ NIA ในการสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาสในการพัฒนานวัตกรรม เพื่อยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ประเทศ ตัวอย่างเช่นการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญที่จะทำให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพทุกท่าน ได้เข้ามารู้จักและสร้างเครือข่ายระหว่างกัน ได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงได้มีพื้นที่และโอกาสในการนำเสนอสินค้าและบริการนวัตกรรมให้แก่กลุ่มนักลงทุน (Investor) ผู้แทนจำหน่าย (Distributor) ผู้ซื้อ (Buyer) และประชาชนทั่วไปที่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อันจะเป็นการช่วยสร้างโอกาสในการเติบโตให้แก่ธุรกิจต่อไป
ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อธิบายถึงความสำคัญของการร่วมมือครั้งนี้เพิ่มเติมว่า “ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการเต็มไปด้วยความคิด แต่การจะขอทุนต้องใช้องค์ประกอบหลายอย่าง ต้องมีองค์ความรู้พื้นฐานด้านการวิจัยและพัฒนา ต้องมีความรู้เรื่องการตลาด รู้เรื่องจุดคุ้มทุน รู้เรื่องวิธีการขาย และการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย ฯลฯ ในส่วนนี้จุฬาฯ จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษา และช่วยพัฒนาโครงการ เราจะทำหน้าที่บ่มเพาะผู้ประกอบการ แนะนำว่าวิธีไหนที่จะใช้พูดคุยให้ได้ใจกับคณะกรรมการผู้ให้ทุน ตอบโจทย์สิ่งที่คณะกรรมการผู้ให้ทุนมองหา โดยศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Innovation Hub) จะเป็นผู้ฟูมฟักให้อาจารย์ นิสิต และบุคคลทั่วไป สามารถนำเอางานวิจัยออกไปสู่ภาคเอกชน หรือแม้แต่การฟูมฟักให้เป็นผู้ประกอบการ มีบริษัทเป็นของตัวเอง โครงการที่เราทำร่วมกับ NIA เราจะให้คำปรึกษาตั้งแต่ความรู้พื้นฐาน ไปจนถึงการออกไปตีตลาดต่างประเทศ”
เรื่องนี้เป็นการเน้นย้ำว่าการร่วมมือระหว่าง NIA กับ จุฬาฯ เป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญการสร้างการเป็นผู้ประกอบการที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจของผู้ประกอบการไทย ดร.สุรอรรถ ศุภจัตุรัส อธิบายถึงหน้าที่ของ NIA และเครือข่ายทั่วประเทศเพิ่มเติมว่า “เครื่อข่ายที่ NIA ร่วมมือด้วยทั่วประเทศจะช่วยส่งเสริมความรู้ให้กับผู้ประกอบการ ไม่เพียงเท่านั้น NIA ยังมีหลักสูตรออนไลน์ต่าง ๆ ที่พร้อมให้ผู้ประกอบการเข้าไปศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแผนธุรกิจ การวางกลยุทธ์องค์กร และถึงแม้ผู้ประกอบการจะไม่ได้ทุนจาก NIA แต่สิ่งที่ได้คือความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดธุรกิจของตัวเองได้”
และเมื่อพูดถึงเรื่องของการให้ทุน NIA มีเกณฑ์ในการพิจารณาอะไรบ้าง ? ในการตัดสินใจจะให้ทุนผู้ประกอบการ ดร.สุรอรรถ ศุภจัตุรัส อธิบายเรื่องนี้อย่างละเอียดว่า เกณฑ์การขอทุน Open Innovation หรือ Regional Market Validation หรือแม้แต่ทุนประเภทอื่น ๆ NIA พิจารณามี 4 ด้าน ได้แก่
1. ความเป็นนวัตกรรม หมายถึง สินค้าและบริการของคุณต้องต่างจากเจ้าอื่น ๆ ในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ ความใหม่ของสินค้าและบริการในยุคปัจจุบันล้วนแตกต่างกันไม่มาก แต่ท้ายที่สุดสินค้าและบริการของคุณที่นำมาขอทุนต้องมีความต่าง ต้องระบุความต่างจากเจ้าตลาดให้ได้
2. ช่องทางการตลาด หมายถึง คุณมีช่องทางการตลาดอะไรที่จะนำมาความต่างของสินค้าและบริการของคุณไปขายเพื่อให้เกิดความโดดเด่น
3. รูปแบบธุรกิจ หมายถึง คุณมีวิธีหาเงินอย่างไร มี Business Model แบบไหนในการตีตลาดที่คุณมองเห็น
4. ความพร้อมของผู้ประกอบการ หมายถึง NIA จะมองไปที่องค์กรของผู้มาขอทุนว่ามีความพร้อมที่จะไปทำตลาดจริง ๆ หรือไม่ หากผู้ประกอบการมีนวัตกรรมที่แตกต่าง มีช่องทางการตลาดที่เหมาะสม มีรูปแบบการหารายได้ที่เป็นไปได้ แต่ทั้งองค์กรกลับมีพนักงาน 1 คน แบบนี้ก็สะท้อนว่าผู้ประกอบการอาจไม่พร้อม หรือ หากองค์กรมีพนักงานที่พร้อมภายใต้ธุรกิจค้าไม้ซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิม แต่กลับทำนวัตกรรมใหม่ที่จะไปตีตลาดอาหาร กรณีแบบนี้อาจต้องมีพนักงานหรือทีมงานที่สอดคล้องกับตลาดใหม่ที่องค์กรจะไปทำ
ดร.สุรอรรถ ศุภจัตุรัส กล่าวส่งท้ายว่า 4 ข้อข้างต้นคือเกณฑ์ที่ NIA จะนำมาพิจารณาเป็นสำคัญในการอนุมัติทุน ซึ่งการร่วมมือกับ NODE ต่าง ๆ จะยิ่งช่วยทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสเข้าถึงทุนมากขึ้น
นายเอกธัช ภัทระโภคพัฐ ผู้จัดการ Node PMU-NIA ภาคกลางฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “กิจกรรมส่งเสริมโอกาสในการขยายผลธุรกิจนวัตกรรมให้กับผู้ประกอบการ Regional Innovation Business Platform ภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประจำปี 2568 ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ผู้ประกอบการในเครือข่ายของ NIA ได้มีโอกาสนำเสนอและประชาสัมพันธ์ผลงานนวัตกรรมให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง อีกทั้งยังได้พบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนกับกลุ่มนักลงทุน ผู้แทนจำหน่าย และผู้ซื้อ เพื่อโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ (Business Matching) โดยผลสำเร็จจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้พบว่า มีจำนวนผู้ประกอบการที่เข้าร่วมจัดแสดงและนำเสนอผลงานนวัตกรรมทั้งสิ้น 21 กิจการ และมี Investor, Distributor และ Buyer จำนวนกว่า 15 หน่วยงาน/องค์กร ที่ได้มาร่วมรับฟังการนำเสนอผลงานนวัตกรรมของผู้ประกอบการ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการสานต่อความร่วมมือทางธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็งต่อไป”
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nia.or.th, Facebook: NIA - National Innovation Agency Thailand และ Facebook: Node NIA ภาคกลางฯ
No comments:
Post a Comment