"จับม้าเข้าคอก" สืบนครบาล ร่วมกับ สืบจังหวัดตรัง และสืบภาค7 ระดมจับบัญชีม้า 8 ราย 13 หมาย ส่งดำเนินคดี - Thailand Times

Breaking

Post Top Ad

Thursday, 11 April 2024

"จับม้าเข้าคอก" สืบนครบาล ร่วมกับ สืบจังหวัดตรัง และสืบภาค7 ระดมจับบัญชีม้า 8 ราย 13 หมาย ส่งดำเนินคดี

"จับม้าเข้าคอก"

สืบนครบาล ร่วมกับ สืบจังหวัดตรัง และสืบภาค7 ระดมจับบัญชีม้า 8 ราย 13 หมาย ส่งดำเนินคดี

นโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร.  ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์  ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ตามหมายจับเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการฉ้อโกลหลอกลวงประชาชนในสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึง บัญชีม้า ที่เป็นโรคระบาดเชื้อร้ายทำร้ายความสงบสุขของประชาชนในสังคมในวงกว้าง

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี, พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ  นำโดย พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ  พ.ต.ท.สัญญลักษ์ สังขะภักดี สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อม ชุดปฏิบัติการที่ 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.สส.1 ,กก.วิเคราะห์ข่าวฯ สืบนครบาล ร่วมกับ สืบจังหวัดตรัง สืบภาค7 จับผู้ต้องหาบัญชีม้า 8 ราย 13 หมายจับ ดังนี้

          1. น.ส.นิศาชล หรือพลอยชมพู  อายุ 21 ปีภูมิลำเนา ต.พระเเท่น อ.ท่ามะกา จว.กาญจนบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดตรังที่ จ.31 / 2567   ลงวันที่ 6 ก.พ. 2567

         ข้อหา"ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่จะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน"     

      สถานที่จับกุม บริเวณหน้าร้าน TMK สุกี้ ซาบู ม.๙ ต.ดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จว.กาญจนบุรี

       นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.เมืองตรัง


        2. นายวีรพงศ์ อายุ 21 ปีภูมิลำเนา ต.บางรัก อ.เมืองตรัง จว.ตรังตามหมายจับของศาล จว.ปราจีนบุรี ที่ จ.82/2565 ลงวันที่ 22 มี.ค.65

         ข้อหา "ร่วมกันหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือน

หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน "  นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.ศรีมหาโพธิ


        3.นายอภิรักษ์  อายุ 20 ปีภูมิลำเนา ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล จว.สตูลตามหมายจับของศาลจังหวัดปราจีนบุรี ที่ จ.71/2565 ลงวันที่ 22 มี.ค. 65

        ข้อหา"ร่วมกันโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน "  นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.ศรีมหาโพธิ


        4. น.ส.จันทร์วลัย อายุ 20 ปี ภูมิลำเนา ต.บ้านควนอ.เมืองตรัง จว.ตรัง  1 ราย 3 หมายจับ

(1). ตามหมายจับของงศาลจังหวัดอุทัยธานี ที่ จ.132/2566 ลงวันที่ มิ.ย. 66

          ข้อหา"ฉ้อโกงฯ และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน"

(2).ตามหมายจับของศาล จ.พะเยา ที่ 50/2566 ลงวันที่ มี.ค.66 

         ข้อหา" ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน ซึ่งกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และร่วมกันฉ้อโกง "

(3). หมายจับของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ จ.8/2567 

ลงวันที่ 10 ม.ค. 67 

         ข้อหา"ฉ้อโกงผู้อื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น " นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.เมืองอุทัยธานี


       5.น.ส.สมฤทัย  อายุ 26 ปี ภูมิลำเนา ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง ตามหมายจับศาล จ.กาญจนบุรี ที่ จ.558/2559 ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2559 

        ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน " ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น"  นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.ท่าเรือ


       6. น.ส.เกสราภรณ์  21 ปี   ภูมิลำเนา ต.นาข้าวเสียอ.นาโยง จว.ตรัง จำนวน   4 หมายจับ!

(1). ตามหมายจับของศาล อาญากรุงเทพใต้ 

ที่ 228/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค.66 

        ข้อหา " ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น" 

(2).ตามหมายจับของศาล แขวงธนบุรี ที่ 332/2565 

ลงวันที่ 31 ต.ค. 65 

      ข้อหา" ฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง"

(3). หมายจับของศาลจังหวัดแพร่ ที่ จ.274/2565 

ลงวันที่ 19 ก.ค. 65 

          ข้อหา"ร่วมกันโดยทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมหิวเตอร์อันเป็น

ยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น และร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น"

(4.) ตามหมายจับของศาลจังหวัดศรีสะเกษ 

ที่ จ.336/2565  ลงวันที่ 20 ต.ค.65

        ข้อหา"ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายมิได้กระทำต่อประชาชนแต่กระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง"

นำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.บางรัก 


      7. น.ส.กฤติยา อายุ 40 ปี ภูมิลำเนา ต.เนินขี้เหล็ก อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์

ตามหมายจับ : ศาลแขวงตรัง ที่ จ 5/2567 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567  

       ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”

นำส่ง สภ.เมืองตรัง


         8. นางกัลย์นภัส อายุ 51 ปี ภูมิลำเนา ตำบลสนามชัย อำเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรีตามหมายจับของศาลจังหวัดตรัง ที่ 18/2567 ลงวันที่ 19 มกราคม 2567  

         ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ฉ้อโกงประชาชน, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ 

ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน    นำส่ง สภ.เมืองตรัง 


      ผู้ต้องหาที่ 1-8 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือน 5 สิ่งที่จะเกิดขึ้น หากท่านรับจ้างเปิดบัญชีม้า ดังต่อไปนี้

1.ถูกดำเนินคดี ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.ถูกดำเนินคดีตามฐานความผิดที่มิจฉาชีพนำบัญชีท่านไปใช้ ในฐานะเป็นตัวการร่วม หรือผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด

3.มีประวัติอาชญากรรรมติดตัว

4.ถูกดำเนินคดีหลายท้องที่ ตามที่มิจฉาชีพได้นำไปใช้หลอกลวงผู้เสียหาย

5.ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากผู้เสียหาย 






No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages