พช. ราชบุรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ สนับสนุนและติดตาม ผลการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดราชบุรี - Thailand Times

Breaking

Post Top Ad

Wednesday 6 March 2024

พช. ราชบุรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ สนับสนุนและติดตาม ผลการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดราชบุรี

พช. ราชบุรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ สนับสนุนและติดตาม ผลการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดราชบุรี เกิดการบูรณาการร่วมคิดร่วมทำสรรสร้างสิ่งดีให้เกิดขึ้น “Change for good”

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 เวลา 08.30 น. ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านแหลมทอง หมู่ที่ 3 ตำบลหัวโพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี 

นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี มอบหมายให้ นางสาววริษฐา สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย นายไกรธวัช ทินโสม ปลัดจังหวัดราชบุรี และนางยุพิน เศรษฐศักดาศิริ พัฒนาการจังหวัดราชบุรี นำทีมหมาดไทยจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านแหลมทอง หมู่ที่ 3 ตำบลหัวโพ อำเภอบางแพ เพื่อรับฟังสรุปผลการดำเนินงาน และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ สนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ ของนายอำเภอและทีมอำเภอ รวมถึงรับฟังปัญหาอุปสรรคในการขับเคลื่อนงาน และให้ข้อเสนอแนะเพื่อร่วมขับเคลื่อนนโยบายและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่

 

ซึ่งในการลงพื้นที่ดังกล่าว ได้มีการติดตามผลการดำเนินงาน รวมถึงรับฟังปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน ให้ข้อแนะนำและให้กำลังใจในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยในการยกระดับแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน โดยเน้นย้ำการขับเคลื่อนภารกิจที่สำคัญ ดังนี้


1. ขับเคลื่อนการพัฒนาหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) อย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมพื้นที่ทุกหมู่บ้าน โดยกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดตัวชี้วัดพื้นฐาน 8 ข้อ ประกอบด้วย 1 ที่อยู่อาศัย มั่นคงแข็งแรง ครัวเรือนมีส้วมที่ถูกสุขลักษณะ  2 มีความมั่นคงทางอาหาร  3 ความสะอาด ส่งเสริมการคัดแยกขยะต้นทาง การจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน การจัดการขยะชุมชน 4 ความสามัคคี ภายในหมู่บ้าน/ชุมชน 5 ความร่วมมือและการมีส่วนร่วมในหมู่บ้านชุมชน 6 การปฏิบัติตามหลักศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม ความจงรักภัคดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 7 ความมั่นคงปลอดภัย 8 การมีน้ำสะอาดสำหรับใช้ในกานอุปโภคบริโภคตลอดทั้งปี

2. โครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน

3. การสร้างทีมภาคีเครือข่าย 7 ภาคีเพื่อร่วมบูรณาการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้ครอบคลุมทุกมิติ คุณธรรม

4. การจัดระเบียบทางสังคม  

5. การสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมให้ทุกครัวเรือนปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานเอง ปลอดภัยจากสารพิษ รวมถึงการดำเนินโครงการ "ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน" เพื่อเป็นคลังอาหารชุมชนให้แก่คนในหมู่บ้านชุมชน 

6. โครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ตามแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา รณรงค์ให้มีการแต่งกายด้วยผ้าไทย ผ้าพื้นเมือง เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้แก่กลุ่มผู้ผลิตผ้า รวมถึงสนับสนุนองค์ความรู้ ช่องทางการตลาดแก่กลุ่มผู้ผลิตผู้ทอผ้า

7. การขับเคลื่อนธนาคารขยะและถุงขยะเปียกลดโลกร้อน รวมไปถึงการใช้พลังงานสะอาด พลังงานทดแทนเพื่อเป็นการลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาโลกร้อน สร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

8.การพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบอารยเกษตรตามแนวพระราชดำริฯโดยการส่งเสริมสนับสนุนให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์เรียนรู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ผู้สนใจได้

9.โครงการทางนี้มีผลผู้คนรักกัน ถนนกินได้ 1,073 เส้นทาง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567                                                                                       

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดราชบุรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัด (คจพ.จ.) ได้รับทราบประเด็นข้อสั่งการของปลัดกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การยกระดับแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน โดยการขับเคลื่อนหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) การสร้างความมั่นคงทางอาหาร โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก  การดำเนินงานศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา  โมเดล รวมถึงนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี  โครงการ ทางนี้มีผล ผู้คนร้กกัน ถนนกินได้ 1,073 เส้นทาง เฉลิมพระเกียรติฯ โดยสนับสนุนขับเคลื่อนการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องต่อไป

 

ในการลงพื้นที่ในครั้งนี้ 

-  จุดที่ 1 บ้านแหลมทอง หมู่ที่ 3 ดำบลหัวโพ อำเภอบางแพ

-  จุดที่ 2 บ้านดอนแห้วหมู หมู่ที่ 3 ตำบลดอนคา อำเภอบางแพ โดยนายอำเภอบางแพ และทีมอำเภอบางแพ ได้นำเสนอผลการขับเคลื่อนที่โดดเด่น (Best Practice) ดังนี้  

 

1.การสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยทุกครัวเรือนได้ปลูกผักสวนครัวไว้รับประทานเอง และในชุมชนยังขยายผลการปลูกผักและไม้ผลเพื่อเป็นคลังอาหารชุมชน ตามโครงการ "ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน" ถนนกินได้ 1073 เส้นทาง เฉลิมพระเกียรติฯ โดยการร่วมกันปลูกไม้ผล และผักบริเวณ 2 ข้างทางในหมู่บ้านเพื่อให้คนในชุมชนได้ใช้เป็นแหล่งอาหารปลอดภัยเป็นต้น ทั้งนี้ทีมอำเภอบางแพ ได้มีการนำผลผลิตจากแปลงผัก ณ บ้านพักนายอำเภอ และผลผลิตจากการปลูกผักในศาสนสถาน ไปใช้ในการเยี่ยมเยียนครัวเรือนเปราะบาง รวมถึงการแจกเมล็ดพันธุ์ผักเพื่อให้ครัวเรือนได้นำไปเพาะปลูกเพื่อไว้รับประธานเป็นการลดรายจ่ายครัวเรือน และมีการส่งเสริมให้เกิดช่องทางการตลาดผลผลิตพืชผักปลอดภัย ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์  เช่น shop chumchon กรมการพัฒนาชุมชน เป็นต้น

 

2.การพัฒนาพื้นที่ต้นแบบเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบอารยเกษตรตามแนวพระราชดำริ/ตามหลักทฤษฏีใหม่ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา อารยเกษตร" โดยนายศักดิ์สิทธิ์  แก่นศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านแหลมทอง และประธานศูนย์เรียนรู้ฯ ได้พัฒนาพื้นที่ต้นแบบ โคก หนอง นา ในพื้นที่ 1 ไร่ โดยการปรับพื้นที่เป็นบ่อน้ำเพื่อเป็นแหล่งน้ำในการเกษตร ร่วมกับการปลูกพืชผัก และทำการเกษตรแบบผสมผสาน โดยไม่ใช้สารเคมี รวมถึงผลิตน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยจากมูลใส้เดือน และมีฐานเรียนรู้การประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต

 

3. โครงการอำเภอบำบัดทุกข์บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน อำเภอบางแพ ได้ดำเนินโครงการกำจัดผักตบชวา โดยการส่งเสริมให้นำมาใช้ประโยชน์เพื่อสร้างรายได้ เช่น การส่งเสริมกลุ่มอาชีพจักรสานกระเป๋าจากเส้นผักตบชวา , กลุ่มผู้ผลิตปุ๋ยหมักจากผักตบชวา , นำไปส่งเสริมการเกษตรโดยใช้เป็นวัตถุดิบในการเพาะเห็ดฟาง และกลุ่มทำกระดาษสาจากผักตบชวา เป็นต้น                                                                                                                                                                                                        


สุพจน์ วรสหวัฒน์/รายงาน








No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages