เอเอทีใส่ใจสิ่งแวดล้อม จับมือดับบลิวเอชเอ ต่อยอดทำโซลาร์ลอยน้ำ - Thailand Times

Breaking

Post Top Ad

Tuesday 7 November 2023

เอเอทีใส่ใจสิ่งแวดล้อม จับมือดับบลิวเอชเอ ต่อยอดทำโซลาร์ลอยน้ำ

 

ระยอง ประเทศไทย, 7 พฤศจิกายน 2566 – ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) โรงงานร่วมทุนของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตรถฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ร่วมกับ บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ลงนามในพิธีเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ขนาด 8 เมกะวัตต์ พื้นที่ติดตั้ง 60,000 ตารางเมตร บนบ่อน้ำดิบในนิคมอุตสาหกรรมอิสเทิร์น ซีบอร์ด จ.ระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่บริหารจัดการของ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA Group) โดยระบบโซลาร์ลอยน้ำนี้ เป็นการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ชนิดดับเบิ้ลกลาสบนทุ่นลอยน้ำที่ผลิตจากพลาสติกชนิด HDPE (High Density Polyethylene) ที่ ไม่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศใต้น้ำและสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ได้ภายในเดือนกันยายน 2567 และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้นกว่า 5,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี

  

การติดตั้งโซลารลอยน้ำครั้งนี้เป็นการผลักดันนโยบายรักษ์โลก ลดโลกร้อน และลดการเกิดภาวะเรือนกระจกของเอเอที ต่อยอดนโยบายการผลิตพลังงานใหม่เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัท RE 100 หรือ Renewable Energy 100% มุ่งผลิตและใช้พลังงานสะอาดทดแทนการใช้พลังงานจากฟอสซิล 100% ให้สำเร็จภายในปี พ.. 2578 ทั้งนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2564 โรงงานเอเอทีได้เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลส์ขนาด 5 เมกะวัตต์ ที่ติดตั้งบนหลังคาโรงงานกว่า 45,000 ตารางเมตร ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศได้มากถึง 92,568 ตัน ในระยะเวลา 25 ปี หรือ 3,949 ตันต่อปี และได้ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ เซลล์บนหลังคาเพิ่มเติมอีก  เมกะวัตต์ ในปี 2566 ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศได้มากถึง 887 ตันต่อปี และหากโครงการโซลาร์ลอยน้ำนี้แล้วเสร็จ จะส่งผลให้โรงงานเอเอที มีการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์รวม 14 เมกะวัตต์

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages