วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 นายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมชลประทาน พร้อมคณะผู้บริหาร นำสื่อมวลชน ลงพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เพื่อติดตามความก้าวหน้างานสำรวจ ออกแบบโครงการปรับปรุงระบบชลประทานพื้นที่เจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และลงพื้นที่ฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 (ประตูระบายน้ำพระธรรมราชา) โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgFydF_fCvrJObqZTUZ-0Oq2yRG2kJYkyuGvpb8JWeug06Z7fTCd6FU3e6nFUbiJ9nMETS3JCYzxxsHT5mS2peAK8FM8XL3oZQwyx01SgnKBrQZRnlr_j72RZB2OSwjVqqsXRQcZ7uYjVEyzkqQpZ4WVO6T9-gtVHPS-9oPSFXKgaVwJnsTZ-XJotsIFA/s16000/batch_S__1507339.jpg)
นายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาลุ่มน้ำเจ้าพระยาประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก และมีแนวโน้มเกิดถี่ขึ้น โดยเฉพาะมหาอุทกภัยครั้งสำคัญในปี 2554 มีปริมาณน้ำหลากเกินศักยภาพการระบายน้ำในปัจจุบันของแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีปริมาณน้ำท่วมมากกว่า 20,000 ล้านลูกบาศก์เมตร สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่เกษตรกรรม ชุมชนอยู่อาศัย แหล่งอุตสาหกรรม จึงจำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำและคลองเดิม โดยดำเนินงานตามแผน แผนปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง โดยทำการออกแบบปรับปรุงคลองระบายน้ำ ปรับปรุงให้สอดรับกับภูมิศาสตร์ของพื้นที่ ทั้งในรูปแบบการขุดคลองระบายน้ำ ออกแบบและปรับปรุงอาคารบังคับน้ำตามแนวคลอง รวมถึงงานก่อสร้างกำแพงกันดินเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและลดการกัดเซาะตลิ่ง มีแนวทางดำเนินงานใน 2 รูปแบบ คือ จัดทำกำแพงกันดินแบบตอกเข็มเสียบแผ่นกันดิน และกำแพงกันดินแบบเข็มพืดคอนกรีตอัดแรง โดยจะพิจารณาจากข้อจำกัดต่างๆ ของพื้นที่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองชลประทาน และคลองธรรมชาติเดิมให้สามารถระบายน้ำจากพื้นที่ด้านใต้แม่น้ำป่าสัก ลงสู่ทะเล รวมถึง ปรับปรุงออกแบบอาคารบังคับน้ำ จะดำเนินการใน 2 รูปแบบ ประกอบด้วย งานก่อสร้างอาคารบังคับน้ำใหม่ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้ำทั้งในช่วงฤดูน้ำหลาก และฤดูน้ำแล้ง ประกอบด้วย ประตูระบายน้ำ และท่อระบายน้ำ จำนวนรวม 12 แห่ง และงานปรับปรุงอาคารบังคับน้ำและสะพาน จากจำนวนอาคารชลประทานในระบบชลประทานเดิมทั้งสิ้น 63 แห่ง บางส่วนจะทำการปรับปรุง ซึ่งจะมีทั้งการก่อสร้างใหม่ทดแทนอาคารเดิม เพิ่มช่องบานระบาย และรื้อถอนอาคารเดิม ประกอบด้วย ประตูระบายน้ำท่อระบายน้ำ และสะพานแทนท่อระบายน้ำเดิม จำนวนรวม 9 แห่ง
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi6wsl8ZzsyWoEKG2Jf4egjduzfoYa733yJY263L3BPDced6jInoJ3t8lSFnQcvXnv4j2Q8wKpz9g4T9lLbt6Gp9inRLMljb4AguKEEiS7nkBmU4Bmu6Mpio9MVORONNmnai19YpaTCTDAut0ao5LM16y8yxubkCDlnbgClLTlpNqMBGvo57cyfWoQM3w/s16000/batch_S__22200405.jpg)
"การดำเนินโครงการออกแบบโครงการปรับปรุงระบบชลประทานพื้นที่เจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง จ.พระนครศรีอยุธยา จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง และปัญหาอุทกภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ ให้สามารถกักเก็บน้ำใช้ในช่วงฤดูแล้ง และสามารถเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็ว โดยพื้นที่ที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการ เริ่มตั้งแต่พื้นที่แม่น้ำปาสัก ผ่านพื้นที่ 77 ตำบล 17 อำเภอ ใน 7 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครนายก ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ รวมความยาวปรับปรุงคลองทั้งสิ้น 505.18 กิโลเมตร ซึ่งจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่จากเดิม 200 ลบ.ม.วินาที เป็น 400 ลบ.ม./วินาที
No comments:
Post a Comment