เสมา 3 ลงพื้นที่ ครม.สัญจร วันแรกที่ระนอง-พังงา-กระบี่ ติดตามการจัดการศึกษา กศน. สำหรับคนพิการ “Ranong Model” และการเรียนการสอนของโรงเรียนเอกชนในช่วงโควิด 19 - Thailand Times

Breaking

Post Top Ad

Monday 15 November 2021

เสมา 3 ลงพื้นที่ ครม.สัญจร วันแรกที่ระนอง-พังงา-กระบี่ ติดตามการจัดการศึกษา กศน. สำหรับคนพิการ “Ranong Model” และการเรียนการสอนของโรงเรียนเอกชนในช่วงโควิด 19

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.ศธ. (ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการ รมช.ศธ.), นายพะโยม ชิณวงศ์ ประธานคณะทำงาน รมช.ศธ., นายสุทิน แก้วพนา รองปลัด ศธ., นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ., เรืออากาศโท สมพร ปานดำ รองเลขาธิการ กอศ., นายสุรศักดิ์ อินศรีไกร เลขาธิการ กศน. ตลอดจนผู้บริหาร ศธ. ลงพื้นที่จังหวัดระนอง พังงา และกระบี่ เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2564 กลุ่มจังหวัดอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา สตูล ภูเก็ต ระนอง) ในการลงพื้นที่จังหวัดระนองเพื่อติดตามนโยบาย กศน. และผลดำเนินการขับเคลื่อนโครงการ NFE Data Map : ปักหมุดสร้างโอกาสทางการศึกษาของผู้พิการและด้อยโอกาส”  (Ranong Model) ณ องค์การบริหารส่วนตําบลกะเปอร์ จังหวัดระนอง

รมช.ศธ. กล่าวว่า จากการรับฟังรายงานของ ผอ.สำนักงาน กศน.จังหวัดระนอง ต้องขอชื่นชมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ ที่ได้มีการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของ รมว.ศธ.ในการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กด้อยโอกาส และนโยบายของตนในการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ เพื่อให้สามารถเข้าถึงการศึกษาที่เหมาะสมและมีคุณภาพ อีกทั้งได้ขับเคลื่อนงานตามนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงานของสำนักงาน กศน.ในปีงบประมาณ 2564 ด้านการสร้างสมรรถนะและทักษะคุณภาพ ด้วยการจัดการศึกษาที่พัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับกลุ่มเป้าหมายพิเศษ อาทิ ผู้พิการ ออทิสติก และผู้ด้อยโอกาสซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทยที่อาศัยอยู่ในจังหวัดระนอง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้คนพิการและผู้ด้อยโอกาสกลุ่มนี้ ได้รับบริการทางการศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย ที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เป็นไปตามบริบท สภาพปัญหาความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ของแต่ละบุคคล


ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงาน กศน.จังหวัดระนอง เป็นพื้นที่นำร่องของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ในการดำเนินการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการในรูปแบบ Ranong Model เพื่อประสานความร่วมมือกับศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดระนอง ลงพื้นที่เพื่อสำรวจ ติดตาม คัดกรอง และปักหมุดคนพิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป


กศน. เป็นสถานศึกษาที่ให้โอกาสกับทุกคน ขอให้ผู้เรียนหรือกำลังจะเข้าสู่ระบบการศึกษาของ กศน. จงภาคภูมิใจว่าตนเองไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร ไม่ใช่คนที่เรียนที่ไหนไม่ได้แล้วมาเรียน กศน. แต่เป็นคนที่รับผิดชอบต่อสังคม เพราะสามารถนำความรู้ความสามารถที่ได้จากการเรียนมาช่วยพัฒนาท้องถิ่นรวมถึงพัฒนาประเทศได้


ทั้งนี้ บุคลากร กศน. ทุกระดับต้องพยายามทำให้ผู้เรียนของตนได้มีความภาคภูมิใจ เพราะยิ่งเขาเหล่านั้นภาคภูมิใจมากเท่าใด ก็แสดงให้เห็นว่าประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ และความเป็นครูที่ได้เติมเต็มความรู้ให้กับผู้เรียน ต้องยอมรับว่าการศึกษาเป็นรากฐานที่สำคัญ เป็นรากแก้วที่แผ่ขยายไปกว้างใหญ่ไพศาล ยิ่งลึกไปเท่าไร กว้างเท่าไร ก็จะทำให้คนสามารถพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตตนเองได้เท่านั้น

จากนั้น รมช.ศธ. พร้อมคณะผู้บริหาร ศธ. ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ และเยี่ยมบ้านผู้พิการที่จะเข้าสู่ระบบการศึกษาของ กศน. ในอำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง โดยภาพรวมจังหวัดระนองมีผู้พิการที่อยู่ในระบบการศึกษาของ กศน.แล้ว 24 คน อยู่ในระหว่างดำเนินการเข้าสู่ระบบการศึกษา 82 คน รวมทั้งสิ้น 106 คน

ช่วงบ่าย รมช.ศธ. พร้อมคณะผู้บริหาร ศธ. ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ และเยี่ยมบ้านผู้พิการที่จะเข้าสู่ระบบการศึกษาของ กศน.ในพื้นที่จังหวัดระนองและพังงา ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูลผู้พิการ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์-สพฐ.-สอศ.-กศน. โดยจะยึดจังหวัดระนองเป็นต้นแบบในการดึงผู้พิการกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาของ กศน. เพื่อจะนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนเพื่อจัดการศึกษาที่เหมาะสมกับความพิการทั้ง 9 ประเภทต่อไป และได้ขอให้ Fix it Center ของ  สอศ. ช่วยสำรวจและซ่อมแซมระบบประปา และไฟฟ้าในบ้านที่มีผู้พิการ ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย


หลังจากนั้นได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดกระบี่ เพื่อตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนเอกชน ภายใต้สถานการณ์โควิด 19 ณ โรงเรียนประกอบธรรมอิสลาม อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่

รมช.ศธ. กล่าวว่า มีความตั้งใจมาเยี่ยมชม และประชุมรับฟังปัญหา อุปสรรค ความต้องการ ของโรงเรียนประกอบธรรมอิสลาม ในการจัดการเรียนการสอน ทราบว่านักเรียนที่นี่ได้รับวัคซีนแล้วกว่าร้อยละ 81 ขอแสดงความยินดีกับครูและบุคลากรที่ได้รับวัคซีนครบทุกคนแล้ว ตลอดระยะเวลาวิกฤตโควิด 19 ที่ผ่านมา ต้องชื่นชมผู้บริหาร ครูและบุคลากรทุกท่านที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อจัดการเรียนการสอน ซึ่งที่ผ่านมาวิธีการเรียนการสอนแบบ Online มีอุปสรรคและข้อจำกัดในการเรียนของนักเรียน โดยนักเรียนที่ประสบปัญหาดังกล่าวส่วนใหญ่พบว่าจะเป็นกลุ่มผู้ปกครองที่มีรายได้น้อย ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการจัดหาอุปกรณ์ แต่ปัจจุบันโรงเรียนสามารถกลับมาจัดการเรียนการสอนได้ทั้งรูปแบบ On-Site On-Demand หรือแบบผสมผสาน (Hybrid) ตามบริบทสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงภาคเรียนที่ 2/2564 ได้ปกติแล้ว

นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานว่า ทางโรงเรียนไม่มีห้องเรียนเพียงพอต่อจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียน 3 ชั้น แต่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากขาดงบประมาณ ทั้งนี้ได้สั่งการให้ รองเลขาธิการ กช. ไปเร่งดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

จากนั้น รมช.ศธ. และคณะ ได้เยี่ยมชมห้องเรียน นิทรรศการของนักเรียน หอพักนักเรียนชาย และอาคารหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้าง ชมการสาธิตการกวนขนมอาชูรอ (ขนมบูโบร์) ประเพณีศาสนาอิสลาม การทำไก่หมุน ไก่อบโอ่ง (สินค้า OTOP) ของตำบลบ้านกลาง อ.อ่าวลึก และรับชมพิธีอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่าน โดยนางสาวซีตีซูลัยคอ แวอาโละ ครูสอนศาสนาของโรงเรียนประกอบธรรมอิสลาม 








No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages