สสว. ร่วมกับสถาบันอาหาร ประกาศผลการดำเนินโครงการกิจกรรมพัฒนาคลัสเตอร์มะพร้าว สับปะรด และกระเทียม ภายใต้โครงการสนับสนุนเครือข่าย SME ปี 2563 - Thailand Times

Breaking

Post Top Ad

Saturday 19 December 2020

สสว. ร่วมกับสถาบันอาหาร ประกาศผลการดำเนินโครงการกิจกรรมพัฒนาคลัสเตอร์มะพร้าว สับปะรด และกระเทียม ภายใต้โครงการสนับสนุนเครือข่าย SME ปี 2563



หนุนต่อยอดเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ในงาน“รวมพลังคลัสเตอร์ สู่เกษตรอุตสาหกรรม” เพื่อขยายตลาดสร้างรายได้เสริมความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ คาดสามารถกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงปลายปี ตั้งแต่วันนี้ -20 ธันวาคม 2563 ณ ลานPGG ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า



นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า การรวมกลุ่มของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SME) มีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยได้นำแนวคิดในการพัฒนาคลัสเตอร์มาเป็นเครื่องมือในการดำเนินการ เน้นการกระตุ้นความเชื่อมโยงกันระหว่างผู้ประกอบการ กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาผู้ประกอบการในคลัสเตอร์ให้มีศักยภาพในการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมกับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และคำนึงถึงความต้องการของตลาดตลอดจนไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน 



“สสว. จึงได้ ร่วมกับ สถาบันอาหาร จัดกิจกรรมพัฒนาคลัสเตอร์มะพร้าว สับปะรด และกระทียม ภายใต้โครงการสนับสนุนเครือข่าย SME ปี 2563 ขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในเชิงพาณิชย์ พัฒนาพื้นที่กลุ่มคลัสเตอร์ต่อเนื่องที่มีความเข้มแข็ง ได้แก่ คลัสเตอร์มะพร้าว จำนวน 1 คลัสเตอร์ (คลัสเตอร์มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร) คลัสเตอร์สับปะรด จำนวน 1 คลัสเตอร์ (คลัสเตอร์สับปะรดสยามโกลด์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์) และคลัสเตอร์กระเทียม จำนวน 1 คลัสเตอร์ (กลุ่มเครือข่ายผู้ปลูกกระเทียม จังหวัดเชียงใหม่) จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจแบบคลัสเตอร์ และพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในด้านต่างๆ ของผู้ประกอบการในคลัสเตอร์ จำนวนกว่า 441 ราย ตั้งแต่พัฒนาศักยภาพการดำเนินการธุรกิจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการในแต่ละกลุ่ม อาทิ จัดอบรมหลักสูตรการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หลักสูตรมาตรฐานการผลิตหลักสูตรการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต หลักสูตรการพัฒนาคลัสเตอร์ หลักสูตรการตลาดและการสร้างแบรนด์เชิงสร้างสรรค์สำหรับผู้นำคลัสเตอร์มะพร้าว สับปะรด และกระเทียม” นายวีระพงศ์ระบุ


ผอ.สสว กล่าวต่อว่า ขณะนี้ การดำเนินโครงการตัวแทนกลุ่มแต่ละคลัสเตอร์สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้สำเร็จ โดยได้นำผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงในงาน “รวมพลังคลัสเตอร์ สู่เกษตรอุตสาหกรรม” เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศได้รู้จักผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาดให้แก่ผลิตภัณฑ์เป้าหมายและผลิตภัณฑ์ของไทยรวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจเอสเอ็มอี คาดกิจกรรมครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมได้ 



สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกิดขึ้นจากโครงการ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ “ปิ๊งโคโค่” (PING COCO) น้ำมะพร้าวน้ำหอม 50% ผสมคอลลาเจน ซิงค์และทอรีน ซึ่งทางกลุ่มคลัสเตอร์มะพร้าวน้ำหอมฯ มีแนวคิดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในรูปแบบเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวน้ำหอมที่เสริมสารกลุ่ม Functional โดยผสมคอลลาเจน ซิงค์และทอรีนที่มีสรรพคุณช่วยทางด้านต่างๆ เช่น คอลลาเจน ช่วยทำให้ผิวพรรณยืดหยุ่น กระชับ เรียบเนียน ซิงค์ ช่วยบำรุงเส้นผม ป้องกันการหลุดร่วง และทอรีนช่วยบำรุงสายตา เป็นต้น นอกเหนือจากประโยชน์อื่นๆ ที่มีในที่น้ำมะพร้าว และนำผ่านเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อแบบสเตอริไลเซชั่น ซึ่งช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้น จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภคที่ชื่นชอบน้ำมะพร้าวน้ำหอม ผลิตภัณฑ์เนยกระเทียม ผลิตภัณฑ์ที่นำกระเทียมซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ปลูกได้จำนวนมากในท้องถิ่นนำมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า โดยทำเป็นผลิตภัณฑ์เนยกระเทียม ที่สามารถนำไปรับประทานกับอาหารได้หลากหลาย เช่น ทาบนขนมปัง หรือทำขนมปังเนยกระเทียม หรือนำไปใช้ในการปรุงอาหาร โดยการนำเทคโนโลยีที่ใช้ในการแปรรูปการถนอมอาหาร สามารถเก็บได้นานกว่า 1 เดือนในอุณหภูมิ 1-8 องศาเซลเซียส และผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชาปรุงสำเร็จผสมน้ำสับปะรดและเนื้อสับปะรด โดยนำสับปะรดพันธุ์ MD2 มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคนในเมืองที่เร่งรีบ แต่ยังต้องการผลิตภัณฑ์ที่บริโภคได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว และสามารถเก็บรักษาได้นาน จึงมีแนวคิดพัฒนาเครื่องดื่มชาปรุงสำเร็จผสมน้ำสับปะรดและเนื้อสับปะรดแบบแช่แข็ง เพียงแค่นำแก้วเข้าอุ่นในไมโครเวฟ ก็จะได้เครื่องดื่มแบบเกล็ดหิมะที่สามารถดื่มได้ทันที มีรสชาติอร่อย หอมหวาน สดชื่น ได้เนื้อสัมผัสของชิ้นสับปะรด 100% เก็บรักษาที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ได้นาน 6 เดือน คาดว่า เมื่อผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกิดขึ้นในโครงการสามารถออกสู่ตลาดได้ จะเกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของผู้ประกอบการในคลัสเตอร์ ได้ไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท 



นอกจากนี้ ภายในงานยังได้นำสินค้าและผลิตภัณฑ์แปรรูป คัดสรรคุณภาพจากผู้ประกอบการคลัสเตอร์มะพร้าว สับปะรด และกระเทียม มาจัดจำหน่ายเพื่อเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว น้ำตาลสดมะพร้าวน้ำหอม 100% กระเทียมไทยคุณภาพดี น้ำพริกกระเทียม เนยกระเทียม สับปะรดผลสดพันธุ์เอ็มดีทู เครื่องดื่มชาปรุงสำเร็จผสมน้ำสับปะรดและเนื้อสับปะรด และยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปคุณภาพดี อีกมากมาย พร้อมจัดช่วงเวลา Happy Hour ลดราคาพิเศษสุดทุกร้านค้า ให้ประชาชนได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ โดยงานงาน “รวมพลังคลัสเตอร์ สู่เกษตรอุตสาหกรรม” มีขึ้นตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2563 เวลา 10.30-22.00 น. ณ ลาน PGG ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า  






No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages