บจธ.เดินหน้าช่วยเกษตรกรให้มีที่ดินทำกิน ยึดหลักเศษฐกิจพอเพียง​ คาดดันพ.ร.บ.​ธนาคารที่ดิน​เข้าครม.มิ.ย. ปีหน้า - Thailand Times

Breaking

Post Top Ad

Tuesday 22 December 2020

บจธ.เดินหน้าช่วยเกษตรกรให้มีที่ดินทำกิน ยึดหลักเศษฐกิจพอเพียง​ คาดดันพ.ร.บ.​ธนาคารที่ดิน​เข้าครม.มิ.ย. ปีหน้า



บจธ.พาคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมพื้นที่โครงการบจธ.​ที่​​จ.เชียงราย​ พร้อมเปิดผลงาน​5​ปี​ ระหว่าง​ ปี59-63​ ช่วยเหลือเกษตรกร​ ให้มีที่ดินทำกิน​ ยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง​มากกว่า​ 4,000​ ราย​ พื้นที่กว่า​ 5,000​ ไร่​ พร้อมริเริ่มตลาดกลางที่ดินจับคู่เจ้าของที่ดินและเกษตรกรเข้าใช้ประโยชน์เช่าที่ทำกิน​และเร่งเดินหน้าร่างพ.ร.บ.ธนาคารที่ดิน



นายกุลพัชร ภูมิใจอวด รองผู้อำนวยการปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนายการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. ต้อนรับคณะสื่อมวลชนที่ลงพื้นที่จ.เชียงราย​และร่วมงาน​ “มอบสิทธิในที่ดิน : ของขวัญปีใหม่จากใจ บจธ” วันที่​ 22-23​ ธันวาคม​ 2563​ โ​รงแรมเฮอริเทจ​ พร้อมแถลงผลงานของบจธ.ว่า ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา (พ.ศ.2559 – 2563) บจธ. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้เกษตรกรไปทั้งหมด 4,134 ราย จำนวนเนื้อที่ประมาณ 5,090 ไร่ โดยผ่านการดำเนินงานของ บจธ. ใน 4 โครงการตามมติ ครม. คือ 


1. โครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน เป็นการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกร ที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ให้มีที่ดินทำกินและได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างยั่งยืน โดยกลุ่มต้องจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มสหกรณ์ และมองหาที่ดินที่ต้องการใช้ประโยชน์ในรูปแบบกรรมสิทธิ์แบบแปลงรวม บจธ. จะเป็นผู้เจรจาร่วมกับกลุ่มสมาชิกจัดซื้อที่ดินเพื่อนำมาให้ เช่า หรือเช่าซื้อระยะยาวไม่เกิน 30 ปี ในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง3% สนับสนุนการจัดทำผังแปลงที่ดินตามหลักภูมิสถาปัตย์และโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงสินเชื่อเพื่อพัฒนาที่ดิน และที่อยู่อาศัย ปัจจุบัน บจธ. ได้ให้การสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนไปแล้ว 9 กลุ่ม ใน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดจันทบุรี จังหวัดลำพูน และจังหวัดนครราชสีมา เกษตรกรจำนวน จำนวน 480 ครัวเรือน จำนวนที่ดิน 1,744 – 1 – 63 ไร่


2. โครงการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน บจธ. ได้ช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาจะสูญเสียสิทธิในที่ดิน หรือสูญเสียสิทธิไปแล้ว โดยการสนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรเพื่อนำไปไถ่ถอนที่ดินจากสถาบันการเงินและเจ้าหนี้นอกระบบ จากการจำนอง ขายฝาก และชำระหนี้ตามคำพิพากษา เพื่อคงสิทธิในที่ดิน รวมไปถึงจัดซื้อที่ดินของลูกหนี้ที่ถูกขายทอดตลาด หรือหลุดขายฝากไปแล้ว  ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท เพื่อคงสิทธิให้เกษตรกรและผู้ยากจนได้กลับมามีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยในที่ดินของตนเองต่อไป และให้สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรมแก่เกษตรกรเพื่อเป็นทุนในการประกอบอาชีพ ตลอดระยะเวลา 5 ปี บจธ. ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว 387 ราย สามารถป้องกันและคงสิทธิในที่ดินได้ถึง 2,476-0-33.7 ไร่ 


3. โครงการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาด้านที่ดินจากการดำเนินนโยบายของรัฐ มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และผู้ยากจน ที่ประสบปัญหาด้านที่ดินจากการดำเนินนโยบายของรัฐ เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC และทางหลวงสายพิเศษ บางปะอิน–นครราชสีมา เป็นต้น บจธ. จะสนับสนุนสินเชื่อสำหรับจัดซื้อที่ดินให้เกษตรกร ผู้ยากจนมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ในรูปแบบแปลงรวมถือกรรมสิทธิ์ร่วม และน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ในการทำเกษตรกรรม เพื่อให้สามารถดำรงชีพได้อย่างมั่นคง  ปัจจุบันมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับการสนับสนุนไปแล้ว 2 กลุ่ม พื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดฉะเชิงเทรา  มีเกษตรกรได้รับความช่วยเหลือ 53 ครัวเรือน  รวมเนื้อที่ทั้งหมด 103-2-51.3 ไร่ 


4. โครงการนำร่องธนาคารที่ดินในพื้นที่นำร่อง 5 ชุมชน (ดำเนินงานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน) บจธ. ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนที่ไม่มีที่ดินทำกินหรือมีไม่เพียงพอต่อการประกอบอาชีพในพื้นที่เป้าหมายให้มีที่ดินทำกินและอยู่อาศัยตามรูปแบบที่ บจธ. กำหนด ซึ่ง บจธ. ได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน จำนวน 500 ครัวเรือน โดยได้จัดซื้อที่ดินตามแผนโครงการดังกล่าว เป็นจำนวนที่ดิน  742 – 0 – 56.2 ไร่ 


5.นอกจากนี้​บจธ.ยังมีโครงการตลาดกลางที่ดิน​ เพื่อช่วยเหลือผู้มีฐานะดี​ มีที่ดิน​ แต่ต้องการนำใช้ประโยชน์หลังจากภาษีที่ดินมีผลบังคับใช้แล้ว​ โดยบจธ.มีแอปพลิเคชันที่จะช่วยจับคู่ระหว่างเกษตรกรผู้ต้องการใช้ที่ดินและเจ้าของ​ที่ดิน​ ให้มาเจอกัน​เพื่อตกลงเช่าที่ดิน​ ถือเป็นความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน​ ซึ่งปัจจุบันสามารถจับคู่ได้แล้ว1​ คู่​ ที่จ.นครนายก


6.การผลักดันร่างกฎหมายในการจัดตั้งธนาคารที่ดิน หรือองค์การอื่นที่มีวัตถุประสงค์ลักษณะทำนองเดียวกันกับธนาคารที่ดิน ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนและรัฐบาล เป็นองค์กรที่ช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน ให้มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง แก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดิน ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านที่ดิน จะเป็นประโยชน์สำหรับเกษตรกรที่ยากจนทุกกลุ่มทั่วประเทศไทย​รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์​ โดยอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็น 7 พื้นที่ ใน 4 ภาค ทั่วประเทศ คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ได้ภายในเดือนมิถุนายน 2564


นายกุลพัชรได้กล่าวในตอนท้ายว่า​ “บจธ.จะเดินหน้าช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่องและบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงาน​ ซึ่งในปัจจุบันยังมีเกษตรกรขอความช่วยเหลือมาประมาณ5,000​ คน​ พื้นที่ประมาณ 20,000​ ไร่​ โดยในปีงบประมาณ​ 2564​ จะเสนอของบประมาณจากรัฐบาลเป็นมูลค่า​ 1,300 ล้านบาทเพื่อดำเนินการ”



หลังจากนั้นคณะสื่อมวลชนได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการวิสาหกิจชุมชนเชียงรายอุ่นไอรักษ์​ ต.ริมกก​ และวิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา​ ต.ดอยฮาง​ อ.เมือง​ จ.เชียงราย​ ร่วมฟังบรรยายสรุปจากผู้แทนรัฐวิสาหกิจชุมชน



























No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages